หลายคนอาจเลี้ยงลูกเด็กเล็กแดงที่บ้านก็เหมือนมีลิงอยู่ในบ้าน... แต่วันนี้ จะพามารู้จักลิงจิ๋วที่ราคาไม่จิ๋ว เริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นพุ่งสูงขึ้นไปได้ถึงหลักแสนหลักล้าน ลิงเหล่านี้พิเศษอย่างไร กลายเป็นแฟชั่นฮอตฮิตขนาดไหน เลี้ยงดูง่ายเหมือนปอกกล้วยไหม เรามีคำตอบ...
เกิดยากตายง่าย
สมชาย ลิ้มอุทัยทิพย์ ผู้หลงใหลลิงจิ๋วมาโมเสทและเพาะเลี้ยงมาหลายปีเล่าว่า ลิงมาโมเสทเป็นสัตว์ป่าสงวนจากประเทศบราซิล ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่นำเข้ามาจากอเมริกา สามารถนำเข้ามาได้โดยต้องผ่านการรับรองของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Covention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือ ไซเตส (CITES) ในการนำเข้า เคลื่อนย้าย เพาะพันธุ์หรือจำหน่ายสัตว์เหล่านี้ แม้ในเมืองไทยจะยังมีการลักลอบเข้ามาอยู่ตามแหล่งซื้อขายใหญ่ๆ อย่างสวนจตุจักร แต่ฟาร์มที่ทำถูกต้องตามกฎหมายก็มี
“ตอนแรกเราเริ่มเลี้ยงตัวเดียวด้วยความสนใจส่วนตัว ซื้อจากฟาร์มมาอีกทีหนึ่ง เลี้ยงไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มเหงา จึงไปหามาเพิ่มต้องให้เวลาปรับตัวกันบ้าง อย่างให้อยู่คนละกรงให้มันคุ้นเคยกันนานๆ เข้าก็ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาสำคัญของการเลี้ยงลิงชนิดนี้คือตอนเล็กๆ เลี้ยงยาก มีเคล็ดลับนิดเดียวคืออย่าให้เขาท้องเสีย เพราะเป็นสัตว์ที่เซนซิทีฟทั้งเรื่องอาหารและอารมณ์ ตอนเด็กๆ ต้องคอยป้อนนมทุก2ชั่วโมงในช่วงสัปดาห์แรก แต่พอเริ่มโตก็จะห่างขึ้นๆ จะเหนื่อยหนักช่วงเดือนแรกเท่านั้น”
นมที่ใช้จะเป็นนมวัวหรือนมเด็กธรรมดาไม่ได้ ต้องใช้นมสำหรับเด็กที่มีปัญหาคลอดก่อนกำหนด หรือสำหรับเด็กที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร เมื่อโตแล้วจะให้กินผลไม้เป็นอาหารหลัก พร้อมให้อาหารเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและทำให้สุขภาพลิงแข็งแรงยิ่งขึ้น
ตารางมื้ออาหารของลิงที่โตแล้ว มื้อเช้าจะเป็นผลไม้สดเนื้อนิ่มอย่างมะละกอสุก ส่วนในตอนกลางวันจะให้เป็นอาหารเสริมอย่างไข่ผสมอาหารเด็กเข้าอบในไมโครเวฟให้สุก ป้องกันเรื่องของพยาธิแล้วยังไม่มีน้ำมันด้วย สำหรับมื้อเย็นจะให้เป็นอาหารสุนัขชนิดเม็ดแช่น้ำเพื่อทดแทนสารอาหารแคลเซียมที่ลิงต้องการ
“เขามีโฆษณาเรื่องอาหารของลิงอยู่อย่างหนึ่งคือ ยางไม้จากบราซิล ประมาณว่าต้องให้ลิงกินถ้าไม่ให้กินจะตาย ผมก็ไม่เคยให้มันกินนะ มันก็ไม่ตาย แต่ก็เคยเห็นตามฟาร์มเขาให้จริงๆ รวมทั้งให้แมลงเป็นๆ ด้วย ซึ่งมันจะมีแคลเซียมมีวิตามินที่จำเป็น แต่อย่างผมรับไม่ได้ที่จะให้แมลงเป็นๆ ก็เลยใช้วิตามินรวมแทนผสมในอาหารให้เขากิน”
เกิดยากตายง่าย
สมชาย ลิ้มอุทัยทิพย์ ผู้หลงใหลลิงจิ๋วมาโมเสทและเพาะเลี้ยงมาหลายปีเล่าว่า ลิงมาโมเสทเป็นสัตว์ป่าสงวนจากประเทศบราซิล ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่นำเข้ามาจากอเมริกา สามารถนำเข้ามาได้โดยต้องผ่านการรับรองของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Covention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือ ไซเตส (CITES) ในการนำเข้า เคลื่อนย้าย เพาะพันธุ์หรือจำหน่ายสัตว์เหล่านี้ แม้ในเมืองไทยจะยังมีการลักลอบเข้ามาอยู่ตามแหล่งซื้อขายใหญ่ๆ อย่างสวนจตุจักร แต่ฟาร์มที่ทำถูกต้องตามกฎหมายก็มี
“ตอนแรกเราเริ่มเลี้ยงตัวเดียวด้วยความสนใจส่วนตัว ซื้อจากฟาร์มมาอีกทีหนึ่ง เลี้ยงไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มเหงา จึงไปหามาเพิ่มต้องให้เวลาปรับตัวกันบ้าง อย่างให้อยู่คนละกรงให้มันคุ้นเคยกันนานๆ เข้าก็ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาสำคัญของการเลี้ยงลิงชนิดนี้คือตอนเล็กๆ เลี้ยงยาก มีเคล็ดลับนิดเดียวคืออย่าให้เขาท้องเสีย เพราะเป็นสัตว์ที่เซนซิทีฟทั้งเรื่องอาหารและอารมณ์ ตอนเด็กๆ ต้องคอยป้อนนมทุก2ชั่วโมงในช่วงสัปดาห์แรก แต่พอเริ่มโตก็จะห่างขึ้นๆ จะเหนื่อยหนักช่วงเดือนแรกเท่านั้น”
นมที่ใช้จะเป็นนมวัวหรือนมเด็กธรรมดาไม่ได้ ต้องใช้นมสำหรับเด็กที่มีปัญหาคลอดก่อนกำหนด หรือสำหรับเด็กที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร เมื่อโตแล้วจะให้กินผลไม้เป็นอาหารหลัก พร้อมให้อาหารเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและทำให้สุขภาพลิงแข็งแรงยิ่งขึ้น
ตารางมื้ออาหารของลิงที่โตแล้ว มื้อเช้าจะเป็นผลไม้สดเนื้อนิ่มอย่างมะละกอสุก ส่วนในตอนกลางวันจะให้เป็นอาหารเสริมอย่างไข่ผสมอาหารเด็กเข้าอบในไมโครเวฟให้สุก ป้องกันเรื่องของพยาธิแล้วยังไม่มีน้ำมันด้วย สำหรับมื้อเย็นจะให้เป็นอาหารสุนัขชนิดเม็ดแช่น้ำเพื่อทดแทนสารอาหารแคลเซียมที่ลิงต้องการ
“เขามีโฆษณาเรื่องอาหารของลิงอยู่อย่างหนึ่งคือ ยางไม้จากบราซิล ประมาณว่าต้องให้ลิงกินถ้าไม่ให้กินจะตาย ผมก็ไม่เคยให้มันกินนะ มันก็ไม่ตาย แต่ก็เคยเห็นตามฟาร์มเขาให้จริงๆ รวมทั้งให้แมลงเป็นๆ ด้วย ซึ่งมันจะมีแคลเซียมมีวิตามินที่จำเป็น แต่อย่างผมรับไม่ได้ที่จะให้แมลงเป็นๆ ก็เลยใช้วิตามินรวมแทนผสมในอาหารให้เขากิน”
สัตว์เลี้ยงเศรษฐี
ลิงจิ๋วมาโมเสทมีสายพันธุ์มากกว่า 10 ชนิด แต่สายพันธุ์ที่คนให้ความสนใจมากที่สุดอย่างพันธุ์ปิกมี่มาโมเสทซึ่งเป็นพันธุ์เล็กที่สุด รวมความยาวจากจมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 18 ซม. หรือจะเป็นพันธุ์หูขาวจะยาวประมาณ 20 ซม. ซึ่งหากตัดความยาวของหางไปแล้วจะเหลือความยาวตัวเท่าหนูพุกเท่านั้นเอง และยังมีพันธุ์หูดำที่ไม่เป็นที่นิยมเท่าหูขาวในต่างประเทศ แต่ในเมืองไทยกลับมีราคาสูงกว่า
นอกจากนี้ยังมีพันธุ์หายากอื่นๆ อย่างพันธุ์สีเงิน พันธุ์สีทอง ที่มีราคาสูงปรี๊ดตั้งแต่หลักแสน พุ่งสูงไปถึงหลักล้านบาท แต่ยังไม่มีการอนุญาติให้เพาะพันธุ์และจำหน่าย หรือยังคงผิดกฎหมายอยู่นั่นเอง
“ปิกมี่จะราคาอยู่ประมาณ 90,000-120,000 บาท แล้วก็จะมีพันธุ์คอตต้อลท็อป หัวสีขาวตัวสีสันสวยงามคู่หนึ่งตกราคา 200,000-300,000 บาท แต่เป็นสัตว์สงวนที่นำเข้าไม่ได้ ต้องมีใบขออนุญาตนำเข้ามา ส่วนพันธุ์หูขาวที่ผมเลี้ยงราคาจะมีตั้งแต่ 30,000 สำหรับลูกลิงเพิ่งเกิด อายุไม่เกิน 10 วัน เมื่ออายุสักเดือนหนึ่งราคาจะประมาณ 35,000-40,000 บาท ตัวเมียก็จะราคาสูงกว่าตัวผู้เพราะมีโอกาสนำไปเพาะพันธุ์ต่อได้”
ฟาร์มทั่วไปที่เพาะขายกันจะไม่ค่อยอยากเลี้ยงช่วงเล็กๆ เพราะยุ่งยากเหมือนเลี้ยงเด็กอ่อน จึงนิยมขายต่อกันตั้งแต่หลังคลอดราว 1-2 วันด้วยราคาประมาณ 30,000 บาท ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อลูกลิงและผู้เลี้ยงอย่างแน่นอน ส่วนตัวเขาเองจะเลี้ยงในเดือนแรกให้พ้นช่วงเสี่ยงไปก่อนจึงเปิดจำหน่ายในราคาที่ไม่ต่างกันมากนัก
สาเหตุหลักที่ทำให้ลิงจิ๋วเหล่านี้มีราคาสูงลิบลิ่วมาจากการจำกัดโดยธรรมชาติ เนื่องจากการสืบพันธุ์ของลิงจิ๋วนี้จะมีลูกได้ครอกละประมาณ 1-3 ตัว แต่ถ้าจะให้ลูกแข็งแรงและอยู่รอดได้ 100% ก็ไม่ควรเกินครอกละ 2ตัว และตลอดอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 10 ปีนั้นสามารถมีลูกได้เพียง 6-10 ครั้งเท่านั้น
เสริมอีกนิดว่าการทำฟาร์มนั้น หากมีความมั่นคงและเป็นงานแล้ว จำนวนลิงจะมีแต่เพิ่มขึ้น ซึ่งเขามองว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่ลิงล้มหายตายจากไปคือหลังจากจำหน่ายลิงไปแล้ว ผู้เลี้ยงขาดความรู้ที่ถูกต้อง ไม่เอาใจใส่ดูแลเท่าที่ควร หรือเลี้ยงเพียงตัวเดียว ทำให้ไม่มีโอกาสได้ผสมพันธุ์
“ตอนนี้คนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นนะ แต่ด้วยราคาและความหายากแล้วทำให้ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ บอกตรงๆ ตอนนี้คนที่ซื้อไปเลี้ยงส่วนใหญ่คือลูกคนรวย ที่ส่วนใหญ่จะบ้าเห่อเป็นพักๆ เหมือนเป็นแฟชั่น พอเขาเริ่มเบื่อก็จะเริ่มทอดทิ้ง ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งเหมือนกัน”
ลิงจิ๋วมาโมเสทมีสายพันธุ์มากกว่า 10 ชนิด แต่สายพันธุ์ที่คนให้ความสนใจมากที่สุดอย่างพันธุ์ปิกมี่มาโมเสทซึ่งเป็นพันธุ์เล็กที่สุด รวมความยาวจากจมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 18 ซม. หรือจะเป็นพันธุ์หูขาวจะยาวประมาณ 20 ซม. ซึ่งหากตัดความยาวของหางไปแล้วจะเหลือความยาวตัวเท่าหนูพุกเท่านั้นเอง และยังมีพันธุ์หูดำที่ไม่เป็นที่นิยมเท่าหูขาวในต่างประเทศ แต่ในเมืองไทยกลับมีราคาสูงกว่า
นอกจากนี้ยังมีพันธุ์หายากอื่นๆ อย่างพันธุ์สีเงิน พันธุ์สีทอง ที่มีราคาสูงปรี๊ดตั้งแต่หลักแสน พุ่งสูงไปถึงหลักล้านบาท แต่ยังไม่มีการอนุญาติให้เพาะพันธุ์และจำหน่าย หรือยังคงผิดกฎหมายอยู่นั่นเอง
“ปิกมี่จะราคาอยู่ประมาณ 90,000-120,000 บาท แล้วก็จะมีพันธุ์คอตต้อลท็อป หัวสีขาวตัวสีสันสวยงามคู่หนึ่งตกราคา 200,000-300,000 บาท แต่เป็นสัตว์สงวนที่นำเข้าไม่ได้ ต้องมีใบขออนุญาตนำเข้ามา ส่วนพันธุ์หูขาวที่ผมเลี้ยงราคาจะมีตั้งแต่ 30,000 สำหรับลูกลิงเพิ่งเกิด อายุไม่เกิน 10 วัน เมื่ออายุสักเดือนหนึ่งราคาจะประมาณ 35,000-40,000 บาท ตัวเมียก็จะราคาสูงกว่าตัวผู้เพราะมีโอกาสนำไปเพาะพันธุ์ต่อได้”
ฟาร์มทั่วไปที่เพาะขายกันจะไม่ค่อยอยากเลี้ยงช่วงเล็กๆ เพราะยุ่งยากเหมือนเลี้ยงเด็กอ่อน จึงนิยมขายต่อกันตั้งแต่หลังคลอดราว 1-2 วันด้วยราคาประมาณ 30,000 บาท ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อลูกลิงและผู้เลี้ยงอย่างแน่นอน ส่วนตัวเขาเองจะเลี้ยงในเดือนแรกให้พ้นช่วงเสี่ยงไปก่อนจึงเปิดจำหน่ายในราคาที่ไม่ต่างกันมากนัก
สาเหตุหลักที่ทำให้ลิงจิ๋วเหล่านี้มีราคาสูงลิบลิ่วมาจากการจำกัดโดยธรรมชาติ เนื่องจากการสืบพันธุ์ของลิงจิ๋วนี้จะมีลูกได้ครอกละประมาณ 1-3 ตัว แต่ถ้าจะให้ลูกแข็งแรงและอยู่รอดได้ 100% ก็ไม่ควรเกินครอกละ 2ตัว และตลอดอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 10 ปีนั้นสามารถมีลูกได้เพียง 6-10 ครั้งเท่านั้น
เสริมอีกนิดว่าการทำฟาร์มนั้น หากมีความมั่นคงและเป็นงานแล้ว จำนวนลิงจะมีแต่เพิ่มขึ้น ซึ่งเขามองว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่ลิงล้มหายตายจากไปคือหลังจากจำหน่ายลิงไปแล้ว ผู้เลี้ยงขาดความรู้ที่ถูกต้อง ไม่เอาใจใส่ดูแลเท่าที่ควร หรือเลี้ยงเพียงตัวเดียว ทำให้ไม่มีโอกาสได้ผสมพันธุ์
“ตอนนี้คนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นนะ แต่ด้วยราคาและความหายากแล้วทำให้ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ บอกตรงๆ ตอนนี้คนที่ซื้อไปเลี้ยงส่วนใหญ่คือลูกคนรวย ที่ส่วนใหญ่จะบ้าเห่อเป็นพักๆ เหมือนเป็นแฟชั่น พอเขาเริ่มเบื่อก็จะเริ่มทอดทิ้ง ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งเหมือนกัน”
เลี้ยงยิ่งกว่าลูก
นอกจากเรื่องความจำกัดด้านการสืบพันธุ์แล้วยังมีเรื่องของนิสัยใจคอของลิงแต่ละตัวด้วย เพราะบางตัวอาจมีลูกได้แต่ไม่ยอมเลี้ยงลูกเอง ทอดทิ้งลูก ซึ่งไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้า ต้องรับมาเลี้ยงดูก่อนเท่านั้น ซึ่งฟาร์มส่วนใหญ่หากพบเจอลิงที่มีปัญหาเช่นนี้จะประกาศขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์นั้นทันที จึงมีความเสี่ยงสูงหากเลือกซื้อลิงที่โตแล้ว
“ตรงนี้ผมยอมเสียเวลาเลยดีกว่า ถ้าอยากเลี้ยงจริงจังคือเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วบ่มเพาะนิสัยดีๆ ให้ เหมือนการเลี้ยงลูกเลยครับ ปลูกฝังให้เขารักลูกได้คือการมีตุ๊กตาให้เล่น การเลี้ยงตั้งแต่เล็กจะไม่มีปัญหาเลย แต่บางคนก็เลี้ยงดูแลดีจนลิงติดคน อันนี้ไม่ดีแน่ คนเรามีสังคมอยู่กับคนนั้นคนนี้ แต่ลิงเขารอคุณคนเดียว เขาจะเหงา เครียด เราจึงควรเลี้ยงแบบไม่ให้เขาติดคนจนเกินไป เล่นได้บ้าง แต่ต้องให้เขารู้จักอยู่ตัวเดียวได้หรือให้คุ้นชินในกลุ่มลิงด้วยกันเองมากกว่ากับคน”
ลิงมาโมเสทแม้จะไม่ใช่ลิงที่เฉลียวฉลาดมากนัก แต่ก็ยังสามารถฝึกสอนให้เรียนรู้ได้บ้างในบางเรื่อง และเช่นเดียวกับสัตว์ทั่วๆ ไปที่จะมีการสร้างอาณาเขตด้วยการปล่อยกลิ่นของตัวเองไว้ตามจุดต่างๆ ที่อาศัย ส่วนใครสนใจจะเลี้ยงต้องทำใจในเรื่องของกลิ่นเฉพาะตัวด้วย หลายคนอาบน้ำประแป้งให้หอม แต่ด้วยสัญชาตญาณแล้วหากอยู่ในที่กลิ่นไม่คุ้นเคยจะรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือไม่ควรเลี้ยงไว้ในห้องแอร์ เนื่องด้วยพื้นเพเดิมเป็นสัตว์เมืองร้อน และการอยู่ตัวเดียวไม่มีแม่คอยให้ความอบอุ่นก็ทำให้ลิงตายได้ รวมทั้งเรื่องของแมลงมีพิษอย่างต่อ แตน ผึ้ง หากวางกรงไว้ในที่โล่งแล้วแมลงเหล่านี้เข้ามาใกล้ ตามธรรมชาติลิงเหล่านี้จะจับแมลงกิน เรียกได้ว่า “ตายสถานเดียว” เช่นเดียวกันกับยาฆ่าแมลง ห้ามฉีดสเปรย์ไล่มดแมลงใกล้กับกรงเด็ดขาด
การดูแลเรื่องสุขภาพให้สังเกตเหมือนเลี้ยงเด็กที่หากไม่สบายจะเซื่องซึม ไม่ยอมกินอาหาร ถ้าจะให้ดีการเลี้ยงลิงที่โตแล้วควรปล่อยให้ลิงได้เจอแสงแดดข้างนอกบ้าง ด้วยการเลี้ยงไว้ในกรงกลางแจ้งที่มีขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมราว 2x2 เมตร มีพื้นที่ร่มให้พัก มีพื้นที่ที่แดดส่องถึง ในบรรยากาศโปร่งอากาศถ่ายเทได้ดี รวมทั้งมีการจัดวางกิ่งไม้เลียนแบบธรรมชาติให้ลิงได้ออกกำลังกาย กระโดดโลดโผนตามธรรมชาติด้วย
“ถ้าสนใจเลี้ยงเนี่ยต้องถามตัวเองให้ลึกๆ นะ ว่ามีเวลาให้เขาไหม มาโมเสทเหมือนเด็กคนหนึ่ง ยิ่งกว่าเด็กเพราะบอกอะไรคุณไม่ได้ ถ้าคุณจะเลี้ยงเพราะแฟชั่นเอาไปเกาะบ่าพาไปเที่ยวบอกเลยว่าไม่เหมาะ เพราะเขาเป็นสัตว์ที่ตื่นเต้นตกใจตลอดเวลา เขาก็ไม่มีความสุขเพราะเครียด อย่าคาดหวังให้เหมือนการเลี้ยงลูกหมา มาหอมมากอดคงไม่ได้ ต้องเตรียมใจให้ดี ถ้าคุณเลี้ยงให้เขาติด เวลาคุณห่างไปเขาจะร้องโหยหวนหาคุณ ต้องรักและมีเวลาให้จริงๆ”
หากใครเห็นลิงมาโมเสทแล้วเกิดปิ๊งปั๊งสนใจอยากเลี้ยงขึ้นมา คงต้องคิดให้หนักทีเดียวทั้งเรื่องราคาสูงปรี๊ด ความเสี่ยง และความรักว่าคุณให้เขาได้แค่ไหน
นอกจากเรื่องความจำกัดด้านการสืบพันธุ์แล้วยังมีเรื่องของนิสัยใจคอของลิงแต่ละตัวด้วย เพราะบางตัวอาจมีลูกได้แต่ไม่ยอมเลี้ยงลูกเอง ทอดทิ้งลูก ซึ่งไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้า ต้องรับมาเลี้ยงดูก่อนเท่านั้น ซึ่งฟาร์มส่วนใหญ่หากพบเจอลิงที่มีปัญหาเช่นนี้จะประกาศขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์นั้นทันที จึงมีความเสี่ยงสูงหากเลือกซื้อลิงที่โตแล้ว
“ตรงนี้ผมยอมเสียเวลาเลยดีกว่า ถ้าอยากเลี้ยงจริงจังคือเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วบ่มเพาะนิสัยดีๆ ให้ เหมือนการเลี้ยงลูกเลยครับ ปลูกฝังให้เขารักลูกได้คือการมีตุ๊กตาให้เล่น การเลี้ยงตั้งแต่เล็กจะไม่มีปัญหาเลย แต่บางคนก็เลี้ยงดูแลดีจนลิงติดคน อันนี้ไม่ดีแน่ คนเรามีสังคมอยู่กับคนนั้นคนนี้ แต่ลิงเขารอคุณคนเดียว เขาจะเหงา เครียด เราจึงควรเลี้ยงแบบไม่ให้เขาติดคนจนเกินไป เล่นได้บ้าง แต่ต้องให้เขารู้จักอยู่ตัวเดียวได้หรือให้คุ้นชินในกลุ่มลิงด้วยกันเองมากกว่ากับคน”
ลิงมาโมเสทแม้จะไม่ใช่ลิงที่เฉลียวฉลาดมากนัก แต่ก็ยังสามารถฝึกสอนให้เรียนรู้ได้บ้างในบางเรื่อง และเช่นเดียวกับสัตว์ทั่วๆ ไปที่จะมีการสร้างอาณาเขตด้วยการปล่อยกลิ่นของตัวเองไว้ตามจุดต่างๆ ที่อาศัย ส่วนใครสนใจจะเลี้ยงต้องทำใจในเรื่องของกลิ่นเฉพาะตัวด้วย หลายคนอาบน้ำประแป้งให้หอม แต่ด้วยสัญชาตญาณแล้วหากอยู่ในที่กลิ่นไม่คุ้นเคยจะรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือไม่ควรเลี้ยงไว้ในห้องแอร์ เนื่องด้วยพื้นเพเดิมเป็นสัตว์เมืองร้อน และการอยู่ตัวเดียวไม่มีแม่คอยให้ความอบอุ่นก็ทำให้ลิงตายได้ รวมทั้งเรื่องของแมลงมีพิษอย่างต่อ แตน ผึ้ง หากวางกรงไว้ในที่โล่งแล้วแมลงเหล่านี้เข้ามาใกล้ ตามธรรมชาติลิงเหล่านี้จะจับแมลงกิน เรียกได้ว่า “ตายสถานเดียว” เช่นเดียวกันกับยาฆ่าแมลง ห้ามฉีดสเปรย์ไล่มดแมลงใกล้กับกรงเด็ดขาด
การดูแลเรื่องสุขภาพให้สังเกตเหมือนเลี้ยงเด็กที่หากไม่สบายจะเซื่องซึม ไม่ยอมกินอาหาร ถ้าจะให้ดีการเลี้ยงลิงที่โตแล้วควรปล่อยให้ลิงได้เจอแสงแดดข้างนอกบ้าง ด้วยการเลี้ยงไว้ในกรงกลางแจ้งที่มีขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมราว 2x2 เมตร มีพื้นที่ร่มให้พัก มีพื้นที่ที่แดดส่องถึง ในบรรยากาศโปร่งอากาศถ่ายเทได้ดี รวมทั้งมีการจัดวางกิ่งไม้เลียนแบบธรรมชาติให้ลิงได้ออกกำลังกาย กระโดดโลดโผนตามธรรมชาติด้วย
“ถ้าสนใจเลี้ยงเนี่ยต้องถามตัวเองให้ลึกๆ นะ ว่ามีเวลาให้เขาไหม มาโมเสทเหมือนเด็กคนหนึ่ง ยิ่งกว่าเด็กเพราะบอกอะไรคุณไม่ได้ ถ้าคุณจะเลี้ยงเพราะแฟชั่นเอาไปเกาะบ่าพาไปเที่ยวบอกเลยว่าไม่เหมาะ เพราะเขาเป็นสัตว์ที่ตื่นเต้นตกใจตลอดเวลา เขาก็ไม่มีความสุขเพราะเครียด อย่าคาดหวังให้เหมือนการเลี้ยงลูกหมา มาหอมมากอดคงไม่ได้ ต้องเตรียมใจให้ดี ถ้าคุณเลี้ยงให้เขาติด เวลาคุณห่างไปเขาจะร้องโหยหวนหาคุณ ต้องรักและมีเวลาให้จริงๆ”
หากใครเห็นลิงมาโมเสทแล้วเกิดปิ๊งปั๊งสนใจอยากเลี้ยงขึ้นมา คงต้องคิดให้หนักทีเดียวทั้งเรื่องราคาสูงปรี๊ด ความเสี่ยง และความรักว่าคุณให้เขาได้แค่ไหน
ข้อมูลจาก http://news.giggog.com/338638